ทรัพยากรมนุษย์กับอาเซียน
ในโลกแห่งยุคโลกาภิวัฒน์ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งทางการเมือง
เศรษฐกิจ สังคมและเทคโนโลยีต่อเนื่องแบบไร้พรมแดนอย่างรวดเร็ว
และเห็นเป็นรูปธรรม
กลุ่มประเทศอาเซียนที่ต้องมีการปรับตัว มีการจัดระเบียบใหม่ และมีการสร้างความร่วมมือใหม่ๆในหลายรูปแบบ
รวมทั้งการรวมตัวที่เรียกว่า การก้าวเข้าสู่การ
เป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี 2558 หรือในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งการเกิดขึ้นเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้นจะส่งผลกระทบกับไทยในหลายๆด้าน รวมไปถึงด้านทรัพยากรมนุษย์ทั้งในภาพรวมของประเทศในระดับมหภาคและทั้งในระดับตัวบุคคลที่เป็นระดับจุลภาคความก้าวหน้าของ ASCC ในด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มองว่าเด็กและเยาวชนคือหัวใจสำคัญในการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตขึ้นเป็นประชากรที่มีคุณภาพในทุกๆด้านด้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของไทยในประชาคมอาเซียน ในแง่นี้ยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษด้วยการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ถือได้ว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของทั้ง 3 เสาหลักของประชาคมอาเซียนเสาหลักที่สำคัญทั้ง 3 เสา อาจสรุปให้เห็นเป็นสังเขป ดังนี้
เป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี 2558 หรือในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งการเกิดขึ้นเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้นจะส่งผลกระทบกับไทยในหลายๆด้าน รวมไปถึงด้านทรัพยากรมนุษย์ทั้งในภาพรวมของประเทศในระดับมหภาคและทั้งในระดับตัวบุคคลที่เป็นระดับจุลภาคความก้าวหน้าของ ASCC ในด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มองว่าเด็กและเยาวชนคือหัวใจสำคัญในการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตขึ้นเป็นประชากรที่มีคุณภาพในทุกๆด้านด้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของไทยในประชาคมอาเซียน ในแง่นี้ยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษด้วยการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ถือได้ว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของทั้ง 3 เสาหลักของประชาคมอาเซียนเสาหลักที่สำคัญทั้ง 3 เสา อาจสรุปให้เห็นเป็นสังเขป ดังนี้
เสาหลักที่ 1
เสาหลักด้านการเมืองและความมั่นคงของภูมิภาคอาเซียน เช่น การส่งเสริมหลักการประชาธิปไตย
การเคารพสิทธิมนุษยชนและคุณค่าแห่งสันติสุขในหลักสูตรของโรงเรียน
การส่งเสริมให้ครูเกิดความเข้าใจอันดีและความชื่นชมวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม
และความเชื่อที่แตกต่างกันในภูมิภาค การจัดให้มีเวทีผู้บริหารโรงเรียน
สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นประจำเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ในอาเซียน
การยกระดับความสามารถ และการพัฒนาเครือข่ายของผู้บริหารโรงเรียน จะมีการส่งเสริมให้มีการเคลื่อนย้ายและติดต่อกันของนักเรียนในภูมิภาคมากขึ้น
ปกป้องและยกระดับมาตรฐานการศึกษาและวิชาชีพ
เสาหลักที่
2 เสาหลักทางด้านเศรษฐกิจ การส่งเสริมให้มีการเคลื่อนย้ายไปมาหากันของนักเรียนในภูมิภาคมากขึ้น การสนับสนุนให้กำลังแรงงานระดับทักษะเคลื่อนย้ายไปมาในภูมิภาคมากขึ้นโดยมีการปกป้องและยกระดับมาตรฐานการศึกษาและวิชาชีพด้วยการพัฒนามาตรฐานอาชีพที่เน้นความสามารถเชิงสมรรถนะในการประกอบอาชีพ
เพื่อให้ทรัพยากรมนุษย์ของอาเซียนมีศักยภาพในการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
ตลอดจนสอดรับกับความต้องการทาอุตสาหกรรม
โดยประสานงานกับงานในส่วนของการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน การกระตุ้นให้มีการพัฒนามาตรฐานร่วมด้านความสามารถเชิงสมรรถนะสำหรับอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษา
เพื่อเป็นฐานในการส่งเสริมให้เกิดการยอมรับความสามารถร่วมกันต่อไป
เสาหลักที่3 เสาหลักทางสังคมและวัฒนธรรมของประชาคมอาเซียนในเสาหลักด้านสังคมและวัฒนธรรม (ASEAN
Socio-Cultural Community: ASCC) จะเน้นการจัดทำเนื้อหาเกี่ยวกับอาเซียนร่วมกันสำหรับครูเพื่อใช้สอนในโรงเรียน การจัดให้มีวิชาเกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมอาเซียนในระดับบัณฑิตศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ การจัดให้มีการเรียนการสอนภาษาต่างๆ
ของอาเซียน ในฐานะทางเลือกด้านภาษาต่างประเทศในโรงเรียน การส่งเสริมให้เยาวชนเกิดความตระหนักเกี่ยวกับอาเซียน
โดยการส่งเสริมให้มีโครงการที่ออกไปยังส่วนต่างๆ เช่น
โครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนในอาเซียน การประชุมเยาวชนมหาวิทยาลัยอาเซียน เป็นต้น การสนับสนุนให้ชุมชนในพื้นที่ชนบทเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อบรรลุเป้าหมายการศึกษาเพื่อปวงชน การส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา
ให้นักวิจัยจากประเทศสมาชิกอาเซียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ การส่งเสริมความเข้าใจ
ความตระหนัก
ความห่วงใยด้านสิ่งแวดล้อมโดยมีการบูรณาการเข้าไปในหลักสูตรของโรงเรียน การแบ่งปันทรัพยากร
การจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาระดับภูมิภาค
พันธกิจที่สำคัญของสมาชิกอาเซียนขณะนี้คือ
การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน
แนวโน้นของผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในประเทศไทย
1.
การโยกย้ายแรงงานที่ใช้ทักษะสูงจากไทยไปยังประเทศอาเซียนอื่น เช่น สถาปนิกและวิศวกรในอาเซียน
ไปที่สิงคโปร์และมาเลเซียมากขึ้น
2.
การแข่งขันด้านแรงงานจะเข้มข้นมากขึ้นมีโอกาสที่จะจ้างงานด้วยค่าจ้างที่ถูกลงกว่าเดิม
3.
ช่องว่างของความแตกต่างของศักยภาพของแรงงานทักษะจะมีช่องกว้างมากขึ้นกว่าเดิมผู้ที่มีโอกาสในการพัฒนามากกว่าก็จะได้เปรียบมากยิ่งขึ้นไป
4.
. เกิดความต้องการทักษะความสามารถบางอย่างสูงกว่าที่เคยเป็นก่อนหน้านี้
เช่น ทักษะความสามารถด้านภาษา
ทักษะการนำเสนอ
การมีความกล้าถามกล้านำเสนอความคิดของตน หรือที่เรียกว่า Assertiveness การทำงานข้ามวัฒนธรรมและความหลากหลาย ความพร้อมในการเดินทางทั้งชั่วคราวและไปประจำเป็นระยะเวลานานยังต่างประเทศ การทำงานอย่างไม่จำกัดเวลาและสถานที่
ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร เป็นต้น
5.
5. การเกิดสำนักงานเสมือนจริงในสองลักษณะคือ
การไม่มีสำนักงานประจำแต่มีสำนักงานที่ใช้ประชุมทางไกลโดยพนักงานยังประจำอยู่ในประเทศของตน
หรือ อาจจะเกิดลักษณะของการทำงานข้ามประเทศเสมือนอยู่ในประเทศนั้น
บทสรุป
การเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับการบริหารทรัพยกรมนุษย์ในประเทศไทย เพราะการเคลื่อนย้ายแรงงานทักษะเสรีจะสร้างให้เกิดแรงกดดันต่อการปรับตัวของแรงงานทักษะทั่วทั้งภูมิภาค เราในฐานะที่เป็นนักบริหารทรัพยากรมนุษย์จึงจำเป็นต้องมีการรับมือทั้งในแง่ของตัวเราเองและทั้งในแง่ของการสร้างกระบวนบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ตอบสนองต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น เวลาอีกเพียง 3 ปีต้องถือว่าเป็นเวลาอีกเพียงไม่นาน หากเราไม่มีการเตรียมการให้เป็นอย่างดีแล้ว ผลกระทบที่จะเกิดต่อทรัพยกรมนุษย์ในประเทศของเราจะเป็นไปอย่างรุนแรง ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนนั้นแล้ว ศักยภาพของประเทศที่จะอยู่รอดได้อย่างเต็มภาคภูมิในระดับอาเซียนก็ดูเหมือนเป็นไปอย่างเลือนลาง ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนที่เป็นนักบริหารทรัพยากรมนุษย์จะต้องตระหนักและลงมือทำ ณ จากวันนี้อย่างต่อเนื่องและจริงจัง
การเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับการบริหารทรัพยกรมนุษย์ในประเทศไทย เพราะการเคลื่อนย้ายแรงงานทักษะเสรีจะสร้างให้เกิดแรงกดดันต่อการปรับตัวของแรงงานทักษะทั่วทั้งภูมิภาค เราในฐานะที่เป็นนักบริหารทรัพยากรมนุษย์จึงจำเป็นต้องมีการรับมือทั้งในแง่ของตัวเราเองและทั้งในแง่ของการสร้างกระบวนบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ตอบสนองต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น เวลาอีกเพียง 3 ปีต้องถือว่าเป็นเวลาอีกเพียงไม่นาน หากเราไม่มีการเตรียมการให้เป็นอย่างดีแล้ว ผลกระทบที่จะเกิดต่อทรัพยกรมนุษย์ในประเทศของเราจะเป็นไปอย่างรุนแรง ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนนั้นแล้ว ศักยภาพของประเทศที่จะอยู่รอดได้อย่างเต็มภาคภูมิในระดับอาเซียนก็ดูเหมือนเป็นไปอย่างเลือนลาง ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนที่เป็นนักบริหารทรัพยากรมนุษย์จะต้องตระหนักและลงมือทำ ณ จากวันนี้อย่างต่อเนื่องและจริงจัง
ข้อมูลอ้างอิง
§ ไม่ระบุชื่อผู้เขียน “ความท้าทายและโอกาส ของไทยในประชาคมอาเซียน” 19 เมษายน 2553; http://www.ftawatch.org/all/news
§ ทวีศักดิ์ ตั้งปฐมวงศ์ “ประชาคมอาเซียนและกฎบัตรอาเซียน คืออะไร และสำคัญอย่างไร” 17 สิงหาคม 2552; http://www.thaingo.org/writer/view.php?id=1324
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น